เปรียบเทียบ
0

ฟังก์ชั่น “วัดระดับออกซิเจนในเลือด” ในสมาร์ทวอทช์ มีเพื่ออะไร

2021-04-28 17:46:38  |   2297

จากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน ส่งผลให้อุปกรณ์การแพทย์ไม่เพียงพอหรือแม้กระทั่งการรอคิวเพื่อตรวจรักษายังถือว่าเป็นเรื่องที่ยาก

จริงๆ แล้วในอุปกรณ์ของใช้ในชีวิตประจำวันของเรา ก็มีสิ่งหนึ่งที่พอจะใช้ตรวจสอบสุขภาพเบื้องต้น เพื่อสังเกตความผิดปกติของร่างกายได้ นั่นก็คือ “นาฬิกา” ที่หลายๆ แบรนด์ออกแบบมาเป็นอุปกรณ์เสริมด้านสุขภาพ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ที่ใส่ใจกับการออกกำลังกายและการวัดผลสุขภาพของตนเองมากขึ้น

สำหรับฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกับการตรวจวัดผลสุขภาพ ที่บ่งบอกถึงเชื้อโควิด-19 ก็คือฟังก์ชันการ “วัดระดับออกซิเจนภายในเลือด” ซึ่งนาฬิกาหลายรุ่นได้ใส่เป็นฟังก์ชันพิเศษเข้ามานั่นเอง


ค่าออกซิเจนในเลือด เกี่ยวข้องกับโควิด-19 อย่างไร?

Garmin ได้เขียนบทความในหัวข้อ “ค่าออกซิเจนในเลือดสามารถช่วยโลกต่อสู้กับโควิด–19” โดยในบทความได้อธิบายไว้ว่า

"ปกติแล้วร่างกายจะมีระดับออกซิเจนในเลือด (SpO2) อยู่ที่ 95-100% แต่ถ้าระดับออกซิเจนต่ำกว่า 95% แสดงว่าร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ และเกิดภาวะขาดออกซิเจน ซึ่งถ้าต่ำกว่า 90% ลงไป อาจจะเป็นไปได้ว่าเกิดความผิดปกติของร่างกายที่เกิดจากการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจและโรคที่เกี่ยวกับปอดได้"

ทั้งนี้ นาฬิกาที่มีฟังก์ชันดังกล่าวอาจไม่สามารถวัดผลได้แม่นยำเท่ากับอุปกรณ์ทางการแพทย์ อย่างเช่นเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว แต่ในขณะที่เครื่องมือกำลังหาซื้อยากขึ้นเรื่อยๆ และมีแนวโน้มว่าจะราคาแพงขึ้นจากกลไกทางการตลาด หากคุณมีนาฬิกาที่บรรจุฟังก์ชันการวัดระดับออกซิเจนภายในเลือดอยู่แล้ว หรือกำลังมองหามาเป็นไอเทมคู่กาย นาฬิกาเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ในการใช้ตรวจสอบเบื้องต้นได้เช่นกัน

- ฟังก์ชันวัดระดับออกซิเจนในเลือดมี #หลักการทำงาน อย่างไร?

ร่างกายของเราจะมีเซลล์เม็ดเลือดแดงที่มีฮีโมโกลบินซึ่งจับกับออกซิเจนอยู่ ซึ่งตัวเซ็นเซอร์ที่นาฬิกาส่วนใหญ่ใช้กันเป็นประเภท Pulse Oximetry ที่จะปล่อยคลื่นแสง 2 ย่านความถี่ที่มีคลื่นความถี่ต่างกันออกมา เช่น แสงอินฟราเรดและแสงสีแดง

โดยปกติแล้วตัวเซ็นเซอร์จะติดอยู่ที่ด้านหลังนาฬิกา เมื่อแสงปล่อยออกมากระทบบริเวณผิว แสงที่ถูกส่งเข้าไปจะกระทบกับฮีโมโกลบินในเซลล์เม็ดเลือดแดง จากนั้นจึงเกิดเป็นการดูดซับแสงที่ต่างกัน โดยฮีโมโกลบินที่มีออกซิเจนอยู่มากจะดูดซับแสงอินฟราเรดดีกว่า ส่วนฮีโมโกลบินที่ไม่มีออกซิเจนจะดูดซับแสงสีแดงได้ดีกว่า

แสงที่สะท้อนกลับมาจากร่างกายจะกลับไปที่เซ็นเซอร์ จึงสามารถคำนวณหาปริมาณฮีโมโกลบินที่มีออกซิเจนได้ออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ (ซึ่งค่าอาจจะคลาดเคลื่อนได้จากหลายปัจจัย เช่น การไหลเวียนของเลือด ตำแหน่งการสวมใส่ หรือแม้กระทั่งการขยับตัวด้วย)

ส่องนาฬิกา ที่มีฟังก์ชันวัดระดับออกซิเจนในเลือด

ปัจจุบันนี้มีนาฬิกาหลายรุ่นหลายยี่ห้อที่บรรจุฟังก์ชันดังกล่าวเข้ามา มีตั้งแต่ราคาหลักร้อยถึงหลักหมื่น เราจึงรวบรวมข้อมูลนาฬิกาแต่ละแบรนด์ที่น่าสนใจ ว่ามีรุ่นไหนบ้างที่ออกฟังก์ชันวัดระดับออกซิเจนในเลือด รวมถึงเปรียบเทียบช่วงราคาและความคงทนของแบตเตอรี่ให้ดูกันชัดๆ เพื่อการตัดสินใจเลือกใช้งานให้เหมาะกับความต้องการของคุณ จะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย!

หมายเหตุ: นาฬิกาไม่ได้เป็นอุปกรณ์ทางแพทย์ ไม่ควรนำไปใช้ในการวินิจฉัยอาการด้วยตนเอง ควรใช้เป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับการสังเกตสภาพร่างกายในเบื้องต้นมากกว่า


ขอบคุณข้อมูลจาก

https://bit.ly/3sPM111
https://bit.ly/2QACbTH
https://apple.co/2QnJnCN
https://bit.ly/2S33vum

Recent Post

ส่งฟรีทั่วไทย

ส่งฟรีไม่มีขั่นต่ำ

จัดส่งด่วน

ภายในประเทศ

บริการ

Click & Collect

เปลี่ยนและคืน

สินค้าได้ง่าย